‘เซ็ปเป้’ ปี66โตพีคสุด กวาดรายได้ 6,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.5%
- admin
- 0
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้จำกัด(มหาชน)หรือSAPPE
เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี2566ว่าบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย6,052.6ล้านบาทเติบโต32.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย4,566.4 ล้านบาทและทำกำไรสุทธิ1,074.2ล้านบาทเพิ่มขึ้น 64.5%จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ653.1ล้านบาทนับเป็นการสร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องด้วยผลสำเร็จจากการบริหารและดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติผลักดันให้แบรนด์ของSAPPEได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
ผลสำเร็จในปีที่ผ่านมามีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของยอดขายทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยซึ่งเซ็ปเป้สามารถขยายช่องทางการขายในตลาดต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่องโดยประเทศที่โดดเด่นสุดคืออังกฤษซึ่งมีการเติบโตสูงถึง358%โดยแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu)น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวสามารถสร้างกระแสBrandLoveและแผ่อิทธิพลเชิงบวกไปสู่ตลาดอื่นๆในทวีปยุโรปได้สำเร็จโดยเฉพาะเนเธอร์แลนด์และประเทศใกล้เคียงซึ่งได้ขยายช่องทางจัดจำหน่ายเข้าสู่ห้างค้าปลีกMainstreamและยังมีแผนจะขยายเพิ่มเติมไปยังห้างค้าปลีกอื่นๆ ที่ยังมีช่องว่างให้ครอบคลุมมากกว่าเดิมคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะที่ในประเทศเกาหลีใต้มีการเติบโตกว่า20% โดยเซ็ปเป้ได้เข้าไปทำการตลาดมากยิ่งขึ้นเพื่อรักษาแชมป์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่คนเกาหลีใต้ชื่นชอบผ่านการใช้TrendCultureเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค อาทิ การโปรโมตผลิตภัณฑ์Mogu Moguผ่านZEPETO แพลตฟอร์มMetaverseใหญ่ที่สุดในเอเชียรวมถึง Tie-inผลิตภัณฑ์ในซีรีส์เกาหลีของNetflixและในรายการของบีทีเอส(BTS)วงบอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีใต้ที่ทรงอิทธิพลในระดับโลกเป็นต้นส่งผลให้สัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น81%และในประเทศคิดเป็น19%ของรายได้จากการขายรวม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารSAPPEกล่าวว่าปี2567เซ็ปเป้ยังคงมุ่งมั่นผลักดันการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติโดยตั้งเป้ารายได้เติบโต20-25%จากปีก่อนด้วยกลยุทธ์สำคัญในการเร่งเครื่องขยายตลาดต่างประเทศอย่างเต็มกำลังเพื่อสานต่อความสำเร็จโดยเฉพาะในทวีปยุโรปและอเมริกาซึ่งในปีนี้เตรียมแผนการตลาดเพื่อสร้างความสนุกและเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกต่อเนื่องขณะที่ตลาดในประเทศก็เตรียมรีแบรนด์ (Rebranding)เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล Sappe Beauti Drink(เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์)เครื่องดื่มสุดฮิตขายดีในไทยซึ่งคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในปลายไตรมาส1/2567นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อวางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศมากกว่า20SKUsเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆของกลุ่มผู้บริโภคให้มากที่สุดนอกจากนี้เซ็ปเป้อยู่ระหว่างทดสอบเครื่องจักรในสายการผลิตใหม่ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ25%หรือ44,000 ตันต่อปีโดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ปลายไตรมาส1/2567เพื่อรองรับคำสั่งซื้อของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ