30 เมษายน “วันชานมไข่มุกแห่งชาติ” ชวนรู้ต้นกำเนิดชานมไข่มุกแก้วแรกของโลก!
- admin
- 0
จุดเริ่มต้น เริ่มมาจากที่ Kung Fu Tea (ร้านชากังฟู) ซึ่งเป็นร้านขายชานมไข่มุกเจ้าดังซึ่งมีหลายสาขากระจายอยู่ทั่วโลก โดยร้านก่อตั้งขึ้นในปี 2010 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นผู้จุดประกายไอเดีย กำหนดให้วันที่ 30 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันชานมไข่มุกแห่งชาติ” หรือ “National Bubble Tea Day” นั่นเอง
โดยร้าน Kung Fu Tea ได้เสนอ National Day Calendar ว่าให้มีการจัดตั้ง วันชานมไข่มุกแห่งชาติ ในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งเป็นวันก่อตั้งร้าน ขึ้นมาเป็นวันสำคัญ
จนท้ายที่สุดได้มีการยอมรับ และประกาศอย่างเป็นทางการ ลงหน้าเว็บไซต์ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2562
อร่อยถูกใจ เบาหวานถามหา “ชานมไข่มุก” ภัยเงียบเสี่ยงโรครุมเร้า
"ชานมไข่มุก" กินยังไงไม่ให้อ้วน!
ต้นกำเนิด “ชานมไข่มุก” มาจากไต้หวัน คำพูดจาก เครื่องสล็อต
“ถ้าไปไต้หวันก็ต้องไปกินชานมไข่มุก” พูดแบบนี้คงจะไม่ผิด เพราะไต้หวันถือเป็นต้นกำเนิดของชานมไข่มุก โดยต้องย้อนไปในช่วงปี 1988 ในสมัยนั้นมีร้านน้ำชาที่ชื่อ “ชาชุนฉุ่ยถัง” ในเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน น่าจะเป็นร้านแรกที่คิดค้นเมนู “ชานมไข่มุก”
โดยชาชุนฉุ่ยถัง เป็นร้านที่เชี่ยวชาญในการเลือก คัดสรร และชงชาแต่ละสายพันธุ์ให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด จนเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ ในปี 1988 มีลูกค้าจากต่างประเทศถามหาชาที่เสิร์ฟแบบเย็น (ซึ่งโดยปกติมักจะเสิร์ฟชาแบบร้อน) ในตอนนั้น Lin Hsiu Hui ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้ชงชาอัสสัมแบบเย็น แล้วบังเอิญได้ลองเท “Fen Yuan” ขนมไต้หวันที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังที่มีเนื้อเหนียวหนุบหนับลงไปด้วย แล้วลองให้ทุกคนในทีมชิมดู ไม่ว่าใครที่ได้ชิมก็ตกหลุมรักเครื่องดื่มนี้
วันนั้นจึงเป็นวันที่เกิดชานมไข่มุกครั้งแรกของโลก จากวันนั้นก็ผ่านมากว่า 30 ปี ชานมไข่มุกกลายเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก จนก่อกำเนิดให้มี "วันชานมไข่มุกแห่งชาติ" และนี่คือที่มาของต้นกำเนิดวันและการทำชานมไข่มุกแก้วแรกของโลกนั่นเอง
สำหรับการร่วมฉลองในวันชาไข่มุกแห่งชาตินี้ ทุกคนอาจซื้อชานมไข่มุก มาถ่ายรูปโพสต์ลงในโซเซียลกัน แล้วติดแฮชแท็กว่า #NationalBubbleTeaDay หรือ #วันชานมไข่มุกแห่งชาติ เพื่อร่วมรำลึกถึงการคิดค้นเมนูแก้วโปรดของพวกเรากัน แต่แนะนำว่าไม่ควรดื่มในปริมาณมากเกินไป เพราะ 1 แก้วโดยเฉลี่ยจะมีพลังงาน 300-400 กิโลแคลลอรี่ หรืออาจหันมาลองสูตรหวานน้อยกันจะได้อิ่มอร่อยไปพร้อมกับสุขภาพที่ดี